เอาจริงๆ นะ ความรักของเก๋ไก๋กับสไปรท์มันเหมือนกับหนังรักในตำนานที่เราเคยเห็นในทีวีเลย แรกๆ ก็หวานแหววมาก ไม่ว่าใครก็คงอิจฉาว่าทำไมชีวิตมันดูเพอร์เฟคจัง ทั้งสองคนเหมือนกับจะไม่มีอะไรสามารถทำให้ความรักของพวกเขาหมดลงได้ แต่เอาจริงๆ ก็ไม่มีอะไรที่ยั่งยืนหรอก เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกมันก็เริ่มเปลี่ยนแปลง จากรักเป็นเพื่อนบ้าง หรือจากหวานเป็นขมบ้าง แน่นอนว่า ความรักมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
แต่ถึงยังไงทั้งคู่ก็ยังมีความทรงจำดีๆ ที่ร่วมกันมา ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็เหมือนจะเดินอยู่ในสวนดอกไม้แต่กลับต้องเดินในฝนแทน คือมันยังงงๆ แต่ก็ยังเดินต่อไปกันได้เรื่อยๆความรักของพวกเขามันไม่ใช่แค่เรื่องจบแล้วจบไปง่ายๆ มันยังคงเป็นความทรงจำที่อยู่ในหัวใจของทั้งสอง จนวันนี้ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว แต่มันยังคงค้างคาอยู่ในรูปแบบของเพื่อนที่ดีต่อกัน
รักของเก๋ไก๋ สไลเดอร์ รักวัยใส รักแรก ยาวนานถึง 5ปี
เรื่องรักแรกของเก๋ไก๋กับสไปรท์นี่มันต้องบอกว่าเหมือนภาพความรักในวัยใสจริงๆ มันไม่ใช่แค่ความรักแบบทั่วไป แต่มันคือการที่ทั้งสองเรียนรู้กันไปเรียนรู้กันมา ในตอนแรกๆ ก็ยังจำได้ว่าเก๋ไก๋กับสไปรท์ดูสดใสไปหมด อารมณ์เหมือนช่วงวัยรุ่นที่แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้กระทั่งไปเดินเล่นตามห้าง ทุกอย่างมันดูสดใสไปหมด
แต่แน่นอนว่าเมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม ความรักในวัยใสมันไม่ได้ยาวนานหรอกนะ บางทีเมื่อมันผ่านไปหลายปีทั้งสองคนก็เริ่มเห็นว่าเราอาจจะไม่ได้เข้ากันได้เหมือนเมื่อก่อน หรือบางทีชีวิตมันก็เปลี่ยนไปตามการเติบโตของแต่ละคน พวกเขาเริ่มมีเส้นทางที่แตกต่างกัน แต่ถึงยังไงมันก็ไม่สามารถลบล้างความรักในตอนนั้นได้เลย รักแรกมันก็แบบนี้แหละ ทิ้งความทรงจำไว้ในหัวใจให้จำไปตลอดชีวิต
เมื่อความรักมาถึงจุดจบชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อ
ก็อย่างที่บอกไปว่าไม่มีอะไรที่ยั่งยืนหรอก ต่อให้รักกันมากแค่ไหน บางทีก็ต้องมาถึงจุดที่ต้องแยกทางกัน และการที่เก๋ไก๋กับสไปรท์ต้องจบความรักไปไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะอยู่ในอารมณ์เศร้าตลอดเวลา จริงๆ แล้วมันเป็นการเรียนรู้และก้าวต่อไปในชีวิตต่างหาก แน่นอนว่าไม่ได้ง่ายหรอก แต่ถ้าเรามองให้ดีๆ มันก็เหมือนกับการทิ้งปีกของเราแล้วบินไปข้างหน้า มันต้องผ่านการปรับตัวบ้าง มันต้องเจ็บบ้าง แต่ยังไงก็ต้องเดินต่อไป
บางคนอาจจะมองว่าเมื่อความรักจบลงก็เหมือนกับชีวิตจบไปเลย แต่มันไม่ใช่เลยนะ เพราะในความจริงแล้วเรามีอะไรให้ทำอีกมากมายที่สำคัญกว่าการจมอยู่กับอดีต ถ้าเราทำใจให้ปล่อยวางจากสิ่งที่เสียไป เราก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ แค่ต้องหาตัวเองให้เจอและไม่ลืมว่าเรายังมีเรื่องดีๆ ในชีวิตที่ต้องไปสัมผัสอีกเพียบ
ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอ เก๋ไก๋ & สไปรท์
แม้ว่าความรักของเก๋ไก๋และสไปรท์จะจบลงแล้ว แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องเป็นศัตรูกันหรือเกลียดกันเลย หลังจากที่ต่างคนต่างแยกทางกันไป ก็ยังคงสามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ ความสัมพันธ์ของพวกเขาหลังจากเลิกกันก็ยังคงเป็นมิตรภาพที่ดี ซึ่งบางครั้งการเป็นเพื่อนที่ดีหลังจากที่เคยมีความรักกันนั้นยากกว่าเป็นแฟนอีกนะ เพราะมันต้องใช้การเข้าใจและเคารพซึ่งกันและกัน
การที่เก๋ไก๋และสไปรท์ยังคงเป็นเพื่อนกันได้มันถือว่าเจ๋งมากๆ เพราะมันไม่ใช่แค่การเลิกแล้วหันไปอยู่กันคนละโลก แต่ยังสามารถเป็นคนที่ช่วยเหลือกันในช่วงเวลาต่างๆ ของชีวิตได้ แค่ไม่มีความรักแบบแฟนแล้ว แต่ก็ยังคงมีความสนิทสนมและเคารพซึ่งกันและกันอยู่เสมอ ซึ่งมันทำให้ทุกอย่างมันดูดีขึ้นเมื่อเราต่างฝ่ายต่างไม่ตัดกันไปจนหมด
บทสรุป เก๋ไก๋ สไลเดอร์ แฟนเก่า เป็นแค่อดีต
ถ้าพูดถึงสุดท้ายแล้ว ความรักของเก๋ไก๋และสไปรท์มันก็แค่ความทรงจำดีๆ ที่อยู่ในอดีต เรื่องของแฟนเก่ามันก็แค่สถานะหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แล้วมันก็เดินออกไปตามเวลาของมัน มันไม่จำเป็นต้องค้างคาอยู่กับเราตลอดไป การที่ทั้งสองจบความสัมพันธ์ไปก็ไม่ได้แปลว่ามันเป็นเรื่องแย่ๆ เสมอไป แต่บางครั้งมันเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีกว่า
ถ้าถามว่าความรักของเก๋ไก๋กับสไปรท์ทำให้เราได้อะไร คงจะเป็นการเรียนรู้เรื่องการปล่อยวางและการเติบโต เมื่อทุกอย่างจบลง เราก็สามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้ บางครั้งการมีแฟนเก่าไม่ได้หมายความว่าต้องมีแผลฝังใจเสมอไป แต่จะกลายเป็นบทเรียนที่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น แล้วเมื่อเรากลับไปมองมันจากมุมมองที่ต่างไป เราก็จะเห็นว่ามันคือเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในชีวิตของทุกคน
